คลื่นความร้อนที่รุนแรง ทำไทยอุณหภูมิพุ่งสูงประวัติการณ์กว่า 52 องศา ในขณะที่ฟิลิปปินส์เสี่ยงไฟฟ้า ‘โอเวอร์โหลด’ เนื่องจากการใช้พลังงานที่มากไม่เพียงพอต่อความต้องการจากสภาพอากาศที่ร้อนอย่างรุนแรง
ประเทศไทยกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยมีอุณหภูมิพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ และทางการเตือนถึงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กว่า 30 อำเภอทั่ว 77 จังหวัดของประเทศไทย มีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน เม.ย. โดยทั่วไปเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ย้อนหลังไปถึงปี 2501 ตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา
ทั้งนี้อุณหภูมิพุ่งสูงสุดถึง 40 องศาเซลเซียส ใน 26 จังหวัด ในเดือน เม.ย. ตามรายงานของหน่วยงาน จังหวัดลำปางทางตอนเหนือมีอุณหภูมิสูงสุดในปีนี้ที่ 44.2 องศา ซึ่งเท่ากับอุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในไทย 44.6 องศา พบครั้งสุดท้ายในปี 2559 และ 2566
นอกจากนี้การใช้พลังงานของประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นอีกเป็นประวัติการณ์ที่ 36,699 เมกะวัตต์ในวันจันทร์ ท่ามกลางอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น ตามข้อมูลบนเว็บไซต์หน่วยงานกำกับดูแลพลังงานของรัฐ นั่นเป็นครั้งที่สามที่ความต้องการไฟฟ้าพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
โดยอุณหภูมิสูงสุดในภูมิภาคส่วนใหญ่คาดว่าจะสูงถึง 40 องศาในวันอังคาร กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ผู้เสียชีวิตจากความร้อนเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 30 รายทั่วประเทศในปีนี้ ซึ่งดัชนีความร้อนของกรุงเทพฯ ถูกระบุว่าสูงกว่า 52 องศา และ “อันตรายมาก” ต่อประชาชนที่อยู่กลางแจ้ง
ในขณะเดียวกัน บางส่วนของฟิลิปปินส์เผชิญกับปัญหาการจ่ายไฟฟ้าที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากคลื่นความร้อนที่รุนแรงทำให้อุปสงค์เย็นลง และทำให้ระบบไฟฟ้า “โอเวอร์โหลด”
ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวว่า “การบริโภคของเราเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันเพราะมันร้อนมาก และเรากำลังตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง”
ภายในประเทศจะใช้กลยุทธ์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการขึ้นราคาไฟฟ้า “อย่างน้อยก็ในตอนนี้” ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศได้ออกคำเตือนเนื่องจากการหยุดชะงักในการจัดหาพลังงานให้กับเกาะลูซอนหลักและวิซายาส คาดการณ์ว่าความต้องการพลังงานไฟฟ้าในลูซอนจะสูงสุดที่ 13,893 เมกะวัตต์ ซึ่งต่ำกว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่เพียงประมาณ 1,000 เมกะวัตต์เท่านั้น
นอกจากนี้โรงเรียนได้รับคำสั่งให้ปิดในวันจันทร์และอังคาร ท่ามกลางการหยุดงานขนส่งและความร้อนอบอ้าว ซึ่งอุณหภูมิแตะระดับ 38.8 องศาในกรุงมะนิลาเมืองหลวง และสูงถึง 39.2 องศาทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ตามรายงานของนักพยากรณ์อากาศของประเทศ
+ There are no comments
Add yours