Welcome to ข่าวเด็ด ข่าวดัง ข่าวมาแรงเจาะลึกต้องที่นี่ hkt48news   Click to listen highlighted text! Welcome to ข่าวเด็ด ข่าวดัง ข่าวมาแรงเจาะลึกต้องที่นี่ hkt48news
Breaking
Thu. Nov 28th, 2024

ตำรวจยศพันตำรวจโทเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บงการให้ลูกสาวดูแลระบบ

พ.ต.ท. เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจยศพันตำรวจโทเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บงการให้ลูกสาวดูแลระบบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในวงการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ไม่มีอะไรน่าตกใจมากไปกว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ที่กำลังบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยของสังคม จากการสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 5 พบว่า พ.ต.ท. ยศพันตำรวจโท ซึ่งเป็นสารวัตรของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ กลับเป็นหัวหน้าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ก่อกวน

บงการให้ลูกสาวดูแลระบบการทำงานของแก๊ง

จากการสอบสวน พบว่า พ.ต.ท. บัณฑิต ได้จัดหาห้องพักให้กับสมาชิกในแก๊ง และยังเคยมาช่วยติดตั้งอุปกรณ์ซิมบ็อกซ์ เพื่อใช้ในการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย นอกจากนี้ พ.ต.ท. บัณฑิต ยังเป็นตัวเชื่อมในการติดต่อกับแก๊ง และยังชักชวนให้ลูกสาวของตนมาร่วมดูแลระบบการทำงานของแก๊งด้วย

ตำรวจร่วมมือกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ในการดำเนินคดี ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ และสามารถจับกุมสมาชิกในแก๊งได้ทั้งหมด 4 คน รวมถึงยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการของแก๊งไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตำรวจมีความมุ่งมั่นในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องประชาชนจากการถูกหลอกลวง

ข้อหาที่ถูกดำเนินคดี

ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 11 พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ.2498, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม ตามมาตรา 67(3) ตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม”

สรุป

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความน่าเศร้าใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม กลับกลายเป็นผู้บงการและสนับสนุนการก่ออาชญากรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบยุติธรรม อย่างไรก็ตาม การที่ตำรวจภูธรภาค 5 สามารถจับกุมผู้ต้องหาและยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินการของแก๊งได้ ถือเป็นความสำเร็จในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ และเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนว่า การกระทำผิดจะไม่สามารถหลบหนีจากการลงโทษได้

Related Post

Click to listen highlighted text!