การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปยุโรป หรือ ยูโร 2024 กำลังจะถึงบทสรุปอันน่าตื่นเต้น โดยนัดชิงชนะเลิศจะเป็นการชิงชัยระหว่างสองยักษ์ใหญ่อย่าง สเปน และ อังกฤษ ซึ่งจะแข่งขันกันในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม ที่สนาม โอลิมเปียสตาดิโอน กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี
สเปนเหนือกว่าอังกฤษในการพบกันหลายครั้งหลังสุด
แม้ว่าสถิติการพบกันในอดีตจะเป็นรองอังกฤษด้วยสกอร์ 14 ชนะ เสมอ 3 และแพ้ 10 นัด แต่หากพิจารณาเฉพาะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา สเปนจะเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบเหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยชนะถึง 5 นัด จาก 8 นัดหลังสุด ในขณะที่อังกฤษชนะได้เพียง 2 นัด เท่านั้น
อังกฤษมีจุดอ่อนที่เกมรับและโค้ชสเตฟานที่ขาดประสบการณ์
หนึ่งในจุดอ่อนสำคัญของทีมสิงโตคำรามคือเกมรับที่ยังคงเป็นปัญหาเรื้อรัง ทั้งในรอบน็อกเอาต์ของยูโร 2024 อังกฤษต้องเสียประตูขึ้นนำให้กับคู่แข่งก่อนในทุกนัด นอกจากนี้ ประสบการณ์ของกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ถูกมองว่ายังไม่เพียงพอที่จะนำทีมคว้าแชมป์รายการใหญ่ได้
ศักยภาพครบครันของสเปน
– ลามีน ยามาล ดาวรุ่งพุ่งแรงวัยเพียง 17 ปี คนสำคัญของสเปน – อัลบาโร่ โมราต้า ประสบการณ์สูง เก็บบอลและประสานเกมได้ดี – นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ความเร็วและทักษะบนริมเส้นระดับเยี่ยม – ดานี่ โอลโม่ ยิงประตูและจ่ายบอลได้อย่างคุณภาพ – ฟาเบียน รุยซ์ ตัวเชื่อมเกมด้วยเทคนิคระดับสูง – โรดรี โกเมซ กองกลางตัวรับ-ตัวรุกที่มีประสิทธิภาพสูง
แฮร์รี่ เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ “ฮีโร่แห่งรองชนะเลิศ”
แฮร์รี่ เคน ดาวยิงจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ มีประวัติอันยาวนานในการพลาดแชมป์รายการสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือการแข่งขันระดับทีมชาติ เขามักจะจบด้วยการเป็นรองแชมป์เสมอ ดังนั้นบางทีนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้เป็นแค่ฮีโร่ของรองชนะเลิศอีกครั้ง