ชายหนุ่มตำรวจ ปณิธานแน่วแน่ตามล่าฆาตกรปู่นาน 16 ปี จนสำเร็จ
เบื้องหลังของนายตำรวจหนุ่มวัยเพียง 31 ปี เขาได้พลิกผันชีวิตด้วยการสมัครเข้ารับราชการทหาร เนื่องจากความโศกเศร้าที่ปู่ของเขาถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมเมื่อ 16 ปีก่อน ด้วยความบากบั่นและไม่ย่อท้อ เขาได้ค้นหาตัวคนร้ายจนพบในที่สุด เป็นเรื่องราวสะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความรักและความกตัญญูที่ไม่เคยเสื่อมคลาย
ความคาดหวังในฐานะหลานชาย
ย้อนกลับไปในปี 2551 นายพร้อม กรดแก้ว ชายชราวัย 81 ปี ซึ่งมีอาชีพเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ถูกฆาตกรรมอย่างทารุณโดยการถูกแทงด้วยมีดพร้าและฟันด้วยขวานจนสิ้นลม เหตุการณ์ครั้งนั้นได้ทิ้งร่องรอยแห่งความเจ็บปวดและความโศกเศร้าให้แก่ครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลานชายของนายพร้อมที่ขณะนั้นมีอายุเพียง 15 ปี
การสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ภรรยาของนายพร้อมได้ชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า บุคคลที่น่าสงสัยที่สุดคือ นายแอน เพื่อนบ้านที่มีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องที่ดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนจนสามารถขอหมายจับนายแอนได้ แต่นายแอนกลับหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย แม้จะผ่านไปนานถึง 16 ปี แต่หมายจับก็ยังไม่หมดอายุความ
ความพยายามอันไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
นายชัชนันท์ กรดแก้ว หลานชายของนายพร้อม ได้ตัดสินใจเข้ารับราชการตำรวจด้วยความหวังที่จะค้นหาและจับกุมฆาตกรของปู่ด้วยตนเอง ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เขาไม่เคยลืมที่จะสืบหาร่องรอยของนายแอน จนในที่สุดก็ได้พบข้อมูลว่านายแอนกำลังเช่าบ้านและทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่เกาะสมุย
การจับกุมที่สำเร็จ
- วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายชัชนันท์ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และเดินทางไปยังเกาะสมุย
- ด้วยการสอบถามข้อมูลจากคนในละแวกนั้น เขาสามารถติดตามจับกุมนายแอนได้ในที่สุด
- ขณะจับกุมนายแอน นายชัชนันท์มีอารมณ์ปั่นป่วนและใจสั่นไหว แต่ก็สามารถผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปได้อย่างดี
บทสรุปแห่งความสำเร็จ
หลังจากรอคอยมานานถึง 16 ปี นายชัชนันท์ได้สานต่อปณิธานของตนเองจนประสบความสำเร็จ เขาได้ฝังใจไว้ว่า “ย่าบอกว่า แกนอนตายตาหลับแล้ว” ซึ่งเป็นคำพูดสุดท้ายที่ภรรยาของนายพร้อมได้กล่าวไว้ เรื่องราวนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความรักและความกตัญญูที่ลูกหลานมีต่อปู่ย่าตายาย แม้จะผ่านไปนานเท่าใด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่เคยเลือนหายไปจากใจ