ในศึกฟุตบอลรายการยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของกลุ่มเอ ลงสนามกันไปเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีเกมสำคัญ 2 คู่ที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
สนามแรก: เยอรมนี เจ้าภาพ พบ สวิตเซอร์แลนด์
นัดนี้ถือเป็นนัดชี้ชะตาว่าใครจะคว้าแชมป์กลุ่มเอไปครอง โดย “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี เจ้าภาพ เพียงแค่ไม่แพ้ก็จะผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะแชมป์กลุ่ม ในขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ หากเก็บชัยชนะได้ก็จะปาดหน้าขึ้นนำกลุ่มแทน
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 28 สวิตเซอร์แลนด์ขึ้นนำก่อนจากประตูของ แดน เอ็นดอย 1-0 ทำให้แฟนบอลเยอรมนีเครียดกันเป็นแถว จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+2 นิคลาส ฟุลล์ครูก โหม่งประตูตีเสมอให้เยอรมนีไปอย่างเหลือเชื่อ จบเกมด้วยผลเสมอ 1-1
ผลงานสุดท้ายของกลุ่มเอ:
- เยอรมนี ชนะ 2 เสมอ 1 รวม 7 คะแนน คว้าแชมป์กลุ่ม
- สวิตเซอร์แลนด์ รั้งอันดับสอง 5 คะแนน ผ่านรอบอัตโนมัติ
- ฮังการี อันดับสาม 3 คะแนน ลุ้นเข้ารอบต่อไป
- สกอตแลนด์ 1 คะแนน ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
สนามสอง: ฮังการี เฉือนชนะ สกอตแลนด์ 1-0 จากประตูทดเจ็บ
อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ฮังการีบุกไปเอาชนะ สกอตแลนด์ 1-0 จากประตูชัยของ เควิน โชบอธ ในนาทีที่ 90+10 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ท่ามกลางเหตุการณ์ดราม่าที่ บาร์นาบาช วาร์กา กองหน้าฮังการีถูกปะทะจนหมดสติคาสนาม ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล
จากผลการแข่งขันทั้งหมด ฮังการีมีลุ้นผ่านเข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับ 3 ของกลุ่ม ขณะที่ สกอตแลนด์ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย