สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน พร้อมคู่สมรสอย่างพักตร์พิไล ทวีสิน โดยนายเศรษฐามีสมบัติรวมมูลค่ากว่า 1,020 ล้านบาท ในขณะที่มีหนี้สินเพียง 10 ล้านบาทเท่านั้น
นายเศรษฐา ทวีสิน มีทรัพย์สินรวมมูลค่า 659,591,567 บาท ประกอบด้วย:
รายการทรัพย์สินสำคัญ
– เงินสด 1 ล้านบาท
– เงินฝากธนาคาร 68.9 ล้านบาท
– เงินลงทุน 1.3 ล้านบาท
– ที่ดิน 158.4 ล้านบาท
– อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 156.4 ล้านบาท
– รถยนต์ Aston Martin DB5 มูลค่า 50 ล้านบาท
– สิทธิและสัมปทาน 87.5 ล้านบาท
– นาฬิกาหรู 38 เรือน มูลค่า 127.9 ล้านบาท
– หีบหลุยส์วิตตองXสุพรีม มูลค่า 6 ล้านบาท
– พระเครื่อง-ตะกรุด 6 องค์ มูลค่า 1.6 ล้านบาท
– สร้อยคอทองคำ 1 เส้น มูลค่า 165,000 บาท
รายได้ประจำปี
นายเศรษฐามีรายได้ประจำปีรวม 253,636,771 บาท จากแหล่งต่างๆ ดังนี้:
– เงินเดือน ค่าจ้าง และโบนัส 153.5 ล้านบาท
– เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท
– เงินได้จากการขายกองทุน LTF 464,770 บาท
– ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท
– เงินชดเชยเกษียณอายุ 13.3 ล้านบาท
– เงินให้จากบุตร 20 ล้านบาท
ทรัพย์สินของคู่สมรส พักตร์พิไล ทวีสิน
พักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยาของนายกฯ มีทรัพย์สินรวม 361,077,116 บาท ประกอบด้วย:
รายการทรัพย์สินสำคัญ
– เงินสด 1.8 ล้านบาท
– เงินฝากธนาคาร 47 ล้านบาท
– เงินลงทุน 52.3 ล้านบาท
– รถยนต์ 3 คัน ได้แก่ Toyota, Flat และ Tesla มูลค่า 2.8 ล้านบาท
– นาฬิกาหรู 31 เรือน มูลค่า 84.8 ล้านบาท
– กระเป๋าหรู 48 ใบ มูลค่า 37 ล้านบาท
– ชุดเครื่องประดับเพชร ไข่มุก มูลค่ารวม 130 ล้านบาท
รายได้ประจำปี
พักตร์พิไลมีรายได้ประจำปี 3,215,173 บาท จากแหล่งต่างๆ ดังนี้:
– เงินบำนาญชราภาพ 56,550 บาท
– เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 632,011 บาท
– เงินได้จากวิชาชีพแพทย์ 2 ล้านบาท
– ดอกเบี้ย 97,767 บาท
– เงินได้จากการขายกองทุน LTF 343,929 บาท
เพิ่มเติมรายการทรัพย์สินดิจิทัล
นอกจากนี้ นายเศรษฐายังได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติม โดยมีทรัพย์สินเป็นโทเค็นดิจิทัลชื่อ SiriHubA จำนวน 310 หน่วย มูลค่า 2,907 บาท และเงินฝาก 197,048 บาท รวมเป็น 199,956 บาท ซึ่งเก็บไว้ที่ศูนย์ซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัล บริษัท อีอาร์เอ็กซ์ จำกัด
การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงฐานะทางการเงินที่มั่งคั่งเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะช่วยสร้างความโปร่งใสและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการบริหารราชการแผ่นดิน