คำเตือนสำหรับนักเดินทางเกี่ยวกับไข้หวัดนก

แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบรายงานการติดเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 แต่หน่วยงานด้านสาธารณสุขกำชับให้นักเดินทางที่เพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ H5N2 ให้เฝ้าระวังอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจภายใน 14 วัน หากพบอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที

ความคืบหน้าของการเฝ้าระวังในประเทศไทย

ดร.ทองชัย กีรติธัชยกูร หัวหน้ากรมควบคุมโรค ระบุว่า หน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รวมถึงกรมปศุสัตว์ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดนกในสัตว์ โดยมีมาตรการเร่งด่วนเตรียมพร้อมหากพบการระบาด

ดร.ทองชัย กล่าวเสริมว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมปศุสัตว์มีระบบห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสสายพันธุ์ H5N2 ได้

รายงานจากองค์การอนามัยโลก

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตรายแรกจากการติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N2 เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นชายวัย 59 ปี ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งเขาเริ่มมีอาการหายใจลำบาก ท้องร่วง อาเจียน และมีอาการคล้ายไข้หวัด แต่ไม่มีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีก

จากการสอบสวนพบว่า บริเวณที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่มีการระบาดของไข้หวัดนกในเดือนมีนาคม ทั้งนี้ WHO ระบุว่าความเสี่ยงต่อประชาชนจากไวรัสสายพันธุ์นี้อยู่ในระดับต่ำ

ข้อควรระวังสำหรับนักเดินทาง

• เฝ้าสังเกตอาการผิดปกติของระบบทางเดินหายใจภายใน 14 วันหลังเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง
• หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ปีกโดยไม่จำเป็น

แม้ว่าประเทศไทยจะยังไม่พบการระบาดของไข้หวัดนกในมนุษย์ แต่การเฝ้าระวังและความระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายแรงนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชน