ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร พร้อมของกลางยาไอซ์และอาวุธปืน ผู้ต้องหาทั้งสี่รายต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ผู้ต้องหาคดียาเสพติด
ผู้ต้องหาประกอบด้วย – นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ อายุ 52 ปี หลานชายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี – นายกิจจา จุลละมุสิก อายุ 55 ปี – นางสาววาลิส ทัศนเอกจิต อายุ 36 ปี – นางสาวอัญชลีพร เหมือนแก้ว อายุ 41 ปี
ข้อกล่าวหาและการดำเนินคดี
ทั้งสี่รายถูกกล่าวหาว่า – ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต – นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติมตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
การขอประกันตัว
หลังจากศาลพิจารณาคำร้องขอประกันตัว ได้มีคำสั่งดังนี้ – นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ประกันตัวด้วยเงิน 55,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ – นายกิจจา จุลละมุสิก ประกันตัวด้วยเงิน 20,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ – นางสาววาลิส ทัศนเอกจิต ประกันตัวด้วยเงิน 20,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ – นางสาวอัญชลีพร เหมือนแก้ว ไม่มีเงินประกันตัว จึงถูกส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำ
บทสรุป
จากกรณีดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความเคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าผู้กระทำความผิดจะมีฐานะหรือสถานภาพใด โดยศาลได้พิจารณาคำร้องขอประกันตัวอย่างรอบคอบและเป็นธรรม ผู้ต้องหาที่มีเงินประกันได้รับการปล่อยชั่วคราว ในขณะที่ผู้ที่ไม่มีเงินประกันต้องถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงหลักนิติธรรมและความเสมอภาคภายใต้กฎหมาย