“นายกฯ เศรษฐา” แจงปมเด้ง “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” เป็นเรื่องภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มั่นใจ 3 คกก.มืออาชีพ ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 คน ด้าน “กิตติ์รัฐ” ลั่น ไม่หนักใจ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 19 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กทม. ก่อนเดินทางลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมลงพื้นที่ หลังมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ว่า ในข้อเท็จจริงแล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกให้มาช่วยราชการที่ทำเนียบรัฐบาล โดยระหว่าง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีการดำเนินการตรวจสอบ
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้พูดคุยกัน และแจ้งให้ทราบว่าจะต้องรีบให้ส่งตัวกลับ เพื่อให้ตนได้รับทราบ และเพื่อจะได้ไปดำเนินการต่อ โดยคำสั่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน ไม่เกี่ยวข้องกับการที่ตนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นกรรมการ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ ขึ้นมาตรวจสอบ โดยการตรวจสอบก็ตรวจสอบไป เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องตรวจสอบ
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า เราก็ทราบกันดีว่าคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน ตรวจสอบทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็กำลังตรวจสอบกันอยู่ เรื่องเมื่อวันที่ 18 เมษายน เป็นคนละเคส คนละกรณีกัน เมื่อถามว่าในส่วนของคณะกรรมการตรวจสอบทั้ง 3 ท่าน มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี ตอบว่า อย่างที่บอกแล้วว่าไม่อยากไปกดดัน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ไม่มีใครไปก้าวก่ายหรือเร่งรัดอะไร
“แต่ผมมั่นใจในความสามารถและความเป็นมืออาชีพของทั้ง 3 ท่านอยู่แล้ว ว่าจะต้องทำให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามองอยู่”
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อ การที่มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะเกรงว่าจะมีการไปแทรกแซงในเรื่องของการดำเนินคดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ได้บอกไว้ว่า เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องของคณะกรรมการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการจัดการกันมา
ส่วนที่มีหลายฝ่ายยังตั้งข้อสังเกตกรณีของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และมีการเปรียบเทียบ ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง นายเศรษฐา ระบุ โดยเชื่อว่าแต่ละกรณีก็มีความแตกต่างกันไป เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรมว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ท่าน
ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้หนักใจอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2567 ได้เรียนขั้นตอนให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบหมดแล้ว.