พายุดีเดือดยางิได้พัดกระหนำเข้าสู่ภาคเหนือของเวียดนามด้วยพลังแรงลมกว่า 149 กม./ชม. ก่อนจะถูกปรับลดระดับเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อันเป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 9 ราย นับเป็นหนึ่งในพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมาในบริเวณนี้
ครอบครัวดับสี่ศพจากดินถล่ม
รายงานจากสื่อท้องถิ่นระบุว่า ได้มีครอบครัวหนึ่งในจังหวัดเหวาบิ๋นทางตอนเหนือของเวียดนามเสียชีวิต 4 ราย เมื่อดินสไลด์ถล่มรถไถพังทับบ้านพักในเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากพายุยางิที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ผู้เสียชีวิตประกอบด้วย: – ภรรยาของเจ้าของบ้านอายุ 51 ปี – ลูกสาว – หลานสองคน ส่วนเจ้าของบ้านรอดชีวิตมาได้เพราะอยู่นอกบ้านขณะเกิดเหตุ
ความเสียหายจากพายุยางิ
นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 4 รายในวันเสาร์ที่ผ่านมา จากเศษวัสดุกระเจิงปลิวมาปะทะกระแทก และมีอีกหนึ่งรายเสียชีวิตในจังหวัดไฮเหงวียนเมื่อวันศุกร์จากต้นไม้ล้มทับ ที่เมืองไฮพงได้ถูกน้ำท่วมขังสูงกว่าครึ่งเมตร ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เสียหาย ไฟฟ้าดับจากสายไฟและเสาไฟล้มลงมา ตามรายงานจากบรรดาสำนักข่าวนานาชาติ
อ่าวฮาลองถูกพายุซัดหนัก
ที่อ่าวฮาลอง แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโกซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไฮพงประมาณ 70 กิโลเมตร ชาวประมงต่างก็ตกตะลึงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในตอนเช้าของวันอาทิตย์ โดยมีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์สว่ามีผู้สูญหายในทะเลบริเวณดังกล่าวอย่างน้อย 12 คน และคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติการค้นหาได้ในวันอาทิตย์เมื่อสภาพอากาศคลี่คลาย นอกจากนี้ ยังมีเรือประมงจำนวนมากถูกคลื่นลมพัดให้จมลงหรือเสียหายอย่างหนักที่ท่าเรือแห่งหนึ่งบนเกาะตวนเช่วด้วย ส่วนที่บนบกนั้นมีหลังคาบ้านเรือนถูกพายุเป่าพังพังลงมา จักรยานยนต์ถูกเป่าให้ล้มระเนระนาดอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง แก้ว และขยะต่างๆ ตามที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน
พายุร้ายครั้งแรงที่สุดในรอบทศวรรษ
ก่อนหน้าที่จะเคลื่อนผ่านเข้าสู่เวียดนาม พายุยางิได้พัดถล่มภาคใต้ของจีนและประเทศฟิลิปปินส์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศเตือนว่า หลักฐานเชิงประจักษ์ที่สะสมมากขึ้นชี้ให้เห็นว่ามหาสมุทรที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ นั้น กำลังส่งเสริมให้เกิดพายุเขตร้อนที่รุนแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนอย่างชัดเจน