ในฤดูกาล 2024-2025 การแข่งขันฟุตบอลรายการระดับสูงสุดของทวีปยุโรปอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันครั้งใหญ่ โดยจะมีจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีการปรับเปลี่ยนระบบการแข่งขันด้วย
การเพิ่มจำนวนทีมเป็น 36 สโมสร
ตามที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้ประกาศไปแล้วว่า ตั้งแต่ฤดูกาล 2024-2025 เป็นต้นไป การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะมีการเพิ่มจำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันจากเดิมที่มี 32 ทีม เป็น 36 ทีม ซึ่งจะทำให้จำนวนเกมการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่มเพิ่มขึ้นจาก 125 เกม เป็น 189 เกม
การปรับรูปแบบการแข่งขันเป็นแบบ “สวิสโมเดล”
นอกจากการเพิ่มจำนวนทีมแล้ว ยูฟ่ายังได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันด้วย โดยจะใช้รูปแบบที่เรียกว่า “สวิสโมเดล” ซึ่งจะมีลักษณะดังนี้:
- ทุกทีมจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และแต่ละทีมจะลงสนามแข่งขัน 8 นัด โดยเป็นเกมเหย้า 4 นัด และเกมเยือน 4 นัด
- จะไม่มีการพบกับทีมจากลีกประเทศเดียวกันในรอบแบ่งกลุ่มนี้
- ทีมที่จบอันดับที่ 1-8 จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปโดยอัตโนมัติ
- ทีมที่จบอันดับที่ 9-24 จะต้องเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ 2 นัด เพื่อคัดเลือกอีก 8 ทีมสุดท้ายไปรอบต่อไป
- ทีมที่จบอันดับตั้งแต่ 25 ลงมา จะตกรอบไปเลย โดยไม่ได้ลงเล่นในศึกยูโรป้า ลีกอีกต่อไป
การจัดสรรโควตาทีมเข้าร่วมการแข่งขัน
สำหรับโควตาการได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2024-2025 นั้น จะมีการจัดสรรดังนี้:
- 2 ทีมจากประเทศที่มีผลงานดีสุดในยุโรปในฤดูกาลก่อนหน้า (อังกฤษและสเปนมีแนวโน้มสูง)
- อันดับ 3 ในลีกของประเทศอันดับ 5 ในการจัดอันดับของยูฟ่า จะได้ 1 โควตา
- ทีมที่ผ่านเข้ามาจากรอบคัดเลือกสายแชมเปี้ยนส์ พาท จะได้ 1 โควตา
นอกจากนี้ ตั้งแต่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป จะยังคงใช้รูปแบบเดิมคือการแข่งขันแบบนอกเอาท์ โดยเล่นสองนัดเหย้าและเยือน จนถึงรอบชิงชนะเลิศที่จะแข่งขันนัดเดียวในสนามกลาง
สรุปการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
- เพิ่มจำนวนทีมจาก 32 เป็น 36 ทีม
- ใช้รูปแบบ “สวิสโมเดล” ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
- ไม่มีการพบกับทีมจากลีกประเทศเดียวกันในรอบแบ่งกลุ่ม
- ทีมอันดับ 1-8 ผ่านเข้ารอบต่อไป ทีมอันดับ 9-24 เล่นเพลย์ออฟ
- ทีมอันดับตั้งแต่ 25 ลงมา ตกรอบทันที ไม่ได้ลงเล่นยูโรป้า ลีก
- มีการเพิ่มโควตาทีมจากบางประเทศ
- รอบน็อคเอาท์ใช้รูปแบบเดิม
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการปฏิวัติวงการฟุตบอลยุโรปอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความตื่นเต้นและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ทีมจากลีกรองได้มีส่วนร่วมในการแข่งขันมากขึ้นด้วย