ระบบสื่อสารล่ม! จับหนุ่ม ขุดถนนพหลโยธิน ตัดสายเคเบิ้ล ใต้ดิน เอาทองแดงไปขาย

จับหนุ่มวัย 36 ปี ลอบขุดถนนพหลโยธิน ตัดสายเคเบิ้ล ใต้ดิน เอาทองแดงไปขาย เผยเส้นที่ถูกตัดนี้ยาวไปถึงอยุธยา ทำระบบสื่อสารล่ม ตร.เร่งล่าตัวคนร่วมแก๊ง

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.67 ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักตัดสายเคเบิ้ล และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ บริเวณถนนพหลโยธิน ขาออก ช่องทางคู่ขนานกม.43+600 ก่อนถึงจุดกลับรถมิตซูบิชิ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สยาม ยศปราณี สวป.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง.

ที่เกิดเหตุพบถนนถูกขุดได้รับความเสียหายจำนวน 2 จุด และ1.รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน บษ 9104 พระนครศรีอยุธยา 2.รถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ทะเบียน 9054 สงขลา 3.รถกระบะ ยี่ห้อนิสัน ทะเบียน 1ฒค 6755 กรุงเทพมหานคร 4.รถหกล้อยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียน 70-6716 สุพรรณบุรี มีสายเคเบิ้ลที่ถูกตัดเป็นท่อนๆ วางอยู่หลังกระบะ และในรถกระบะยังมีคีมตัดสายไฟขนาดใหญ่ บันไดเหล็ก

และที่บนถนนก็ยังพบสายเคเบิ้ลถูกตัดเป็นท่อนๆ จำนวนหลาย 10 ท่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ 1 คนทราบชื่อ นายจีระพันธ์ อายุ 36 ปีและในรถกระบะยังมีใบราคาของการปลอกสาย

จากการสอบถามศิริชัย ผอบเหล็ก อายุ 37 ปี อาสาตำรวจ บอกว่า ขณะที่ตนเองจะไปดูอุบัติเหตุรถตกข้างทางและสังเกตว่าทำไมคนงานทำงานกันตอนกลางคืนและมีรถหกล้อ 2 คันทะเบียนเดียวกัน ตนเองจึงขอเข้าไปดูเอกสารรถ แต่ทางคนงานที่มาทำงานไม่ให้ดู และพูดบ่ายเบี่ยง เดินหนี ซึ่งตนเห็นว่าคนงานกลุ่มนี้มี 15-16 คน และขุดหลุมกลางถนน มีคนลงไปในท่อเพื่อที่จะตัดสายเคเบิ้ล จากนั้นก็ใช้รถ 6 ล้อดึงสายเคเบิ้ลขึ้นมา พอตนเห็นท่าไม่ดี ก็เลยโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วย

ส่วนนายจีระพันธ์ รับสารภาพว่า พวกตนมาจากสายไหมและตระเวนก่อเหตุไปเรื่อยๆ ซึ่งพวกตนรับจ้างเขามาตัดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเพื่อนคนอื่นหนีไปหมดแล้ว

นายอาคม อารยาพันธ์ นักปฎิบัติการช่างเทคนิค7 ฝ่ายสื่อสัญญาณ บริษัท เอ็นที กล่าวว่า ปกติจะมอนิเตอร์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าสายสัญญาณขาดหรือเสีย ก็จะขึ้นเรียลไทม์ทันที ซึ่งเส้นที่ถูกตัดนี้ไปถึงพระนครศรีอยุธยา และเส้นทีถูกตัดนี้ ก็มีทั้งสายไฟเบอร์ออฟติกและสายทองแดง

ส่วนคนที่ตัดไปเพียงที่จะเอาทองแดงไปขายเท่านั้น สายขนาด 400 คู่สายระยะทาง 200 เมตรเน็ตเวิร์กหลักอยู่ที่ธัญบุรี และจะไปที่อยุธยา สระบุรี สุพรรณบุรี ขณะนี้สัญญาณก็ใช้ไม่ได้เป็นบางส่วน มูลค่าความเสียหายก็เป็นล้านบาท

ซึ่งขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.คลองหลวง เพื่อขยายผลตามจับเพื่อนร่วมแก๊งมาดำเนินคดีต่อไป